ล็อกเก็ต 100ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต  

Posted by Honeybee


ด้านหลังมีหลังมวลสารพระกัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น เส้นเกศาและจีวรหลวงปู่ 

ราคา: โชว์เท่านั้น
Line ID: 8billion

"หลวงปู่บุญฤทธิ์" (หรือฉายา "ช้างเผือกผาแด่น" ที่หลวงปูชอบ ฐานสโม ผู้เป็นอาจารย์ตั้งให้) ท่านบวชเมื่อปี ๒๔๘๙ หลังจากที่ได้อยู่จำพรรษากับพระอาจารย์กู่ ที่วัดป่าอรุณรังษี อ.เมือง จ.หนองคาย ระยะหนึ่งแล้ว ท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระไตรปิฎกอย่างจริงจัง แล้วจึงกลับไปอยู่ที่วัดสุปฏินาราม จ.นครราชสีมา จากนั้นได้ไปอยู่ที่วัดป่าลุมพุก จ.อุบลราชธานี ได้ฝึกปฏิบัติธรรมภาวนา และเรียนรู้เรื่องของปฏิจจสมุปบาทตอนต้น จนได้ปัญญา ทำให้ความคิดที่อยากจะลาสิกขาหายไป โดยตั้งใจใหม่ว่าจากนี้ไปจะขออยู่ในสมณเพศไปตลอดชีวิต
            ต่อมาท่านได้เดินทางไปอยู่กับพระอาจารย์ลี ธัมมธโร  (ศิษย์รุ่นที่ ๒ ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) ที่วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี พอออกพรรษาปี ๒๔๙๑ ท่านได้เดินทางไป จ.เชียงใหม่ พักที่วัดเจดีย์หลวง พอถึงวันวิสาขบูชา มีพระป่าสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ร่วม ๑๐๐ รูป มาชุมนุมกันที่นั่น นับเป็นโอกาสอันดีที่หลวงปู่จะได้พบกับพระผู้ใหญ่หลายรูป อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ฯลฯ
            สำหรับหลวงปู่ชอบ นับเป็นศิษย์รูปสำคัญของพระอาจารย์มั่นท่านหนึ่ง โดยมีผู้ยกย่องว่าท่านเป็นผู้มี อภิญญาสูงมาก
            คำว่า "อภิญญาสูงมาก" นี่เองที่ทำให้หลวงปู่บุญฤทธิ์เกิดความศรัทธานับถือ จึงได้เดินทางไปขอพบเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์
            ณะนั้นหลวงปู่ชอบจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านยางผาแด่น อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อันเป็นสำนักสงฆ์ที่ท่านได้สร้างขึ้นในหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง อยู่บนภูเขาสูง กลางดงป่าใหญ่ ทุรกันดารมาก ไม่มีทางรถไปถึง การเดินทางต้องบุกป่าฝ่าหนามปีนเขาขึ้นไปเท่านั้น
            พระผู้ใหญ่หลายท่านที่ได้ทราบข่าว ต่างพากันห้ามหลวงปู่บุญฤทธิ์ว่าอย่าไปเลย เพราะหนทางลำบากมาก แต่ท่านก็ไม่เชื่อฟัง โดยได้ตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่แล้วว่าจะต้องเดินทางไปให้ถึงจนได้
            หลวงปู่บุญฤทธิ์ ได้บันทึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า... "ญาติโยมได้ว่าจ้างคนหามของบุกไป พื้นดินเป็นแต่ขี้โคลนครึ่งเข่า เดินขึ้นเขาสูงครึ่งวัน ทั้งวันจะหารอยเท้าคน รอยเท้าสัตว์ ไม่มีเลย ทางไปลำบากมาก วนเดินหลงป่าอยู่ ๒ หน ไปถึงสำนักสงฆ์หลวงปู่ชอบเอาเกือบค่ำ แอบบ่นในใจว่า...แหมท่านอาจารย์ ทำไมมาอยู่ที่ยากอย่างนี้หนอ..."
            พอไปถึงได้พบกับหลวงปู่ชอบแล้ว ท่านได้จุดเทียนอธิษฐาน ปวารณาขอจำพรรษาบนเขาสูง วัดป่าบ้านยางผาแด่น กับหลวงปู่ชอบ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปีนั้น (พ.ศ.๒๔๙๓) โดยได้ทำหน้าที่ถวายอุปัฏฐากหลวงปู่ชอบทุกอย่าง ขณะเดียวกันก็ได้รับคำแนะนำสั่งสอนในการปฏิบัติธรรมกรรมฐานจากหลวงปู่ชอบด้วย
            ต่อมาเมื่อออกพรรษา หลวงปู่ชอบได้ลงไปจากเขา ส่วนหลวงปู่บุญฤทธิ์ยังอยู่ต่อไปเพียงรูปเดียว เพราะท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้แล้วว่าจะขออยู่บนนี้ ๓ ปี จึงต้องทำตามที่ได้ตั้งใจอธิษฐานไว้
            ในพรรษาที่ ๒ ท่านพ่อลี ธัมมธโร ได้ขึ้นมาอยู่บนเขานี้ด้วย และได้สอนให้หลวงปู่บุญฤทธิ์นั่งสมาธิแบบปฏิภาคนิมิต อานาปานสติกรรมฐาน คือ การทำสมาธิโดยกำหนดลมหายใจเข้าออก ซึ่งท่านพ่อลีเป็นผู้เชี่ยวชาญทางนี้มาก
            หลวงปู่บุญฤทธิ์ได้ปฏิบัติธรรมภาวนาอยู่บนเขาบ้านยางผาแด่นจนครบ ๓ ปีตามที่ได้อธิษฐานไว้ หลังจากนั้นท่านได้ลงมาจากเขาสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยได้เดินทางไปอยู่วัดโน่นบ้างวัดนี้บ้าง ที่เป็นวัดป่าสายพระอาจารย์มั่น ในหลายๆ จังหวัด เป็นเวลาหลายปี รวมทั้งได้ไปดูแลการก่อสร้างวัดป่าที่ จ.สตูล อีกด้วย
            พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่ได้รับหน้าที่ให้เป็นพระธรรมทูต ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่ประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งการสอนปฏิบัติธรรมภาวนา เผยแผ่ให้ทั้งคนไทยในออสเตรเลีย และชาวต่างชาติที่สนใจ รวมทั้งได้เขียนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้สนใจปฏิบัติธรรมภาวนา ที่เป็นชาวต่างชาติได้เรียนรู้เข้าใจง่ายขึ้น
ที่มา: http://www.komchadluek.net/

This entry was posted on Wednesday, May 4, 2016 at 11:05 PM . You can follow any responses to this entry through the comments feed .

0 comments

Post a Comment