Tuesday, May 5, 2009

วัดศีรษะทอง หรือวัดพระราหู

วัดนี้สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อไตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและพี่น้องประชาชนชาวลาวที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณนั้น ตั้งแต่สมัยรั๖นโกสินทร์ตอนต้นที่ได้ชื่อว่าวัดศีรษะทองเนื่องจากตอนที่ขุดดินสร้างวัดนั้นได้ขุดพบเศียรพระพุทธรูป จึงมีการตั้งชื่อวัดว่า วัดหัวทอง ต่อมาจึงเรียกอย่างเป็นทางการว่าวัดศีรษะทองวัดนี้มีพระเครื่องเด่นก็คือพระราหู ที่ทำจากกะลามะพร้าวที่มีตาเดียว หรือที่นักเลงพระเรียกกันว่า กะลาตาเดียว ที่เป็นวิชาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่คราวก่อนสร้างวัดของชาวลาว จนมาถึงปัจจุบัน พระราหูอมจันทร์กะลาตาเดียวรุ่นแรกปัจจุบันหายากมากมีแต่ในหนังสือพระ แต่ผู้ที่สนใจก็สามารถชมได้ที่แผงพระของทางวัดซึ่งมีพระราหูอมจันทร์หลายรูปแบบ ทั้งแบบรูปปั้นลอยตัว แบบกะลามะพร้าว หรือเหรียญ ว่ากันว่า พระราหูนี้ใครบูชาแล้วจะ ช่วยป้องกันภัยอันตรายต่างๆ เมื่อยามดวงชะตาตกกะลาพระราหูก็จะช่วยแก้ให้ดีขึ้นเหมือนเดิม
ความเชื่อว่าการกราบไหว้ขอพรพระราหูนั้นเป็นการขอพรให้พ้นเคราะห์ต่าง ๆ และยังดลบันดาลให้เกิดโชคลาภ ช่วยให้การงานเจริญก้าวหน้า และเชื่อว่าพระราหูยังเป็นเทพบูชาประจำตัวเพื่อเสริมบารมีของคนที่เกิดวันพุธกลางคืนอีกด้วย แม้การบูชาพระราหูจะสามารถทำได้ตลอดวลา แต่ส่วนใหญ่จะนิยมบูชากันในวันพุธตอนกลางคืน โดยบูชาด้วยธูปดำคนละ 8 ดอก พร้อมทั้งถวายเครื่องบูชาซึ่งเป็นสีดำทั้งหมด 8 อย่าง แทนความหมายต่างกัน ได้แก่ ไก่ดำ เหล้า กาแฟดำ เฉาก๊วย ถั่วดำ ข้าวเหนียวดำ ขนมเปียกปูน ไข่เยี่ยวม้า สามารถไหว้บูชาพระราหูได้ทุกวัน (ยกเว้นวันพระ)
นอกจากพระราหูกะลาตาเดียวที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วที่วัดนี้ยังมีพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยเสริมดวงชะตาแก่ผู้เข้าร่วมพิธีได้ด้วย ในระหว่างทำพิธีผู้ร่วมพิธีจะต้องผู้ในผ้าศักดิ์สิทธิ์ด้านหนึ่งสีขาว อีกด้านหนึ่งสีแดง ที่คลุมอยู่ และพระสงฆ์จะสวด เจริญคาถา เพื่อเสริมดวงชะตาและปัดเป่าสิ่งช่วยร้ายออกไป
หากท่านใหนอยากจะบูชาพระราหูทางวัดมีศาลาที่ประดิษฐานพระราหูองค์ใหญ่ไว้ และมีของบูชาที่เป็นของดำเตรียมไว้อำนวยความสะดวกในการบูชาด้วย

No comments:

Post a Comment